อะไรก็ได้…

“หิวแล้ว… เที่ยงนี้กินอะไรดีอะ…”

“อืมมม… อะไรก็ได้…”

คุ้นๆมั้ยกับคำตอบนี้  “อะไรก็ได้”

สำหรับตัวเองเป็นคำตอบที่คุ้นมากๆ และคิดเสมอว่าตอบอย่างนี้แหละดี เพราะแสดงว่าเราไม่เรื่องมาก

แต่…

คิดไปคิดมา การตอบอะไรก็ได้ กลับเป็นการที่เราไม่ได้คิด ตอบแบบ auto pilot ซะมากกว่า

ตั้งใจว่าต่อไปนี้จะคิดก่อนตอบว่า “อะไรก็ได้”

แม้ว่าสุดท้ายได้ไม่ได้ทำอย่างที่เลือก(เพราะเสียงส่วนมาก หรืออะไรก็แล้วแต่) อย่างน้อยเราก็ได้คิดก่อนว่าเราอยากได้/ทำ/กิน อะไรจริงๆ

[youtube id=”d6wRkzCW5qI”]

ดูแล้วหึกเฮิมดี… :)

 

Observation

เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็มีการประชุมเพื่อวางแผนเป้าหมายสำหรับปีหน้า ซึ่งคนที่เข้าประชุมแต่ละคนก็ไม่ใช่ระดับเล็กๆกันแล้ว ต่างคนก็มีความรับผิดชอบในงานที่ตัวเองดูแลอยู่ไม่ใช่น้อย…

ก่อนการประชุมก็จบลงให้ตอนเย็น ก็มีการเปิดโอกาสให้แต่ละคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประชุมวันนี้ว่ามีอะไรที่ดี และอะไรที่ควรนำไปปรับปรุง…

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ การให้เกียรติผู้อื่นในที่ประชุม…

หลายครั้งที่หลายคน (รวมทั้งผมด้วย) ไม่ได้ตั้งใจฟังขณะที่คนอื่นกำลังพูด เท่านั้นยังไม่พอ ยังเปิด notebook ทำงานของตัวเองไปด้วย ซึ่งก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะแต่ละคนก็มีงานเข้าอยู่ทั้งวัน…

แต่… ก็เหมือนกับความเคยชินที่ทุกคนจะทำงานอื่น หรือ ไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่ผู้พูดจะพูดขณะประชุม

Reflection

กลับมานั่งคิดๆดูถ้าเป็นตัวเราเองก็คงรู้สึกไม่ดีถ้าสิ่งที่เราใช้เวลาเตรียมมานำเสนอ แต่กลับไม่มีคนสนใจฟัง หรือ ฟังแค่บางคนที่เกี่ยวกับเรื่องที่พูดเท่านั้น

ตั้งใจว่าจากนี้ไปจะไม่เอาnotebook เข้าไปในห้องประชุม และจะตั้งใจฟังในสิ่งที่คนอื่นพูดเพื่อเป็นการให้เกียรติในสิ่งที่เค้าจะพูด หรือนำเสนอในที่ประชุม

ถ้าต่อไปเห็นผมไม่ตั้งใจฟังเรื่องที่คุณพูด ก็ช่วยสะกิดผมแรงๆให้รู้ตัว จะเป็นพระคุณอย่างสูง… :)

ต้องยกให้เป็นหนึ่งใน VDO Clip ที่สร้างแรงบัลดาลใจที่สุดของปีนี้คลิปหนึ่ง เมื่อ Susan Boyle สาวชาวอังกฤษ วัย 42 ปี มาออกรายการ Britains Got Talent เพื่อทำตามความฝันของเธอ ซึ่งคือการเป็นนักร้องอาชีพ

แม้ว่าทั้งกรรมการและผู้ชมในห้องส่งจะไม่เชื่อว่า หญิงวัยกลางคน คนนี้จะมีดีอะไรมาโชว์ แต่เมื่อเธอเริ่มร้องเพลงเพียงวรรคแรกเท่านั้น…

เสียงของซูซานก็ทำให้ทุกคนตะลึงในความสามารถ และต่างยืนขึ้นปรบมือและสงเสียงเชียร์เธอกันยกใหญ่ เธอกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ทุกคนต่างพูดถึงและอยากรู้จักกันทั่วโลก

ซูซานเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากเรื่องการไม่ละทิ้งความฝัน แม้ว่ามันจะดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ในสายตาคนอื่นก็ตาม

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=9lp0IWv8QZY]

Observation

ทุกสิ่งต้องมีการเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น…

หลายครั้งที่เห็นคนที่ประสบความสำเร็จ หรือสิ่งก่อสร้างใหญ่ ก็อดนึกไม่ได้ว่ามันเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร?

อย่างคำกล่าวที่ว่า ร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก ได้ฟังมากี่ทีสมองก็บอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย จะทำอะไรก็ต้องมีจุดเริ่มต้นทั้งนั้น

ปัญหาคือ การเริ่มต้นสิ่งใหม่แต่ละครั้งต้องใช้กำลังภายในในการทำให้เกิดมากกว่าที่คิดเสมอ ตอนคิดก็คิดว่าแค่นี้ก็คงได้มั้ง? แต่สุดท้ายต้องใส่แรงไปอีกหลายเท่ากว่าจะผลักดันให้สิ่งใหม่ๆเกิดขึ้น

เขียนถึงตรงนี้ก็นึกกลับไปถึงสมัยเรียนฟิสิกส์ ที่ว่าแรงเสียดทานสถิตย์จะสูงกว่าแรงเสียดทานจลน์ ทำให้เราต้องใส่แรงมากกว่าที่วัตถุจะเริ่มเคลื่อนที่

ปัญหาที่จะตามมาก็คือ หลายครั้งที่เราออกลงแรงไปแล้ว แต่จะเราจะไม่อยากทำอะไรใหม่ๆ เพราะมันเหนื่อย เหนื่อยกว่าที่คิด แล้วเราจะทำยังไงดีเพราะจะนั่งหายใจทิ้งไปเฉยๆก็ใช่ที่

Reflection

ทำอย่างไรถึงจะทำให้การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆง่ายขึ้นล่ะ…

  1. แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำ หลายครั้งสิ่งที่เราจะเริ่มต้น ไม่ได้มาจากสิ่งที่เราต้องการจริงๆ แต่เป็นเพียงสิ่งที่เราอยากได้ ทำให้ตัวเองก็ไม่พร้อมที่จะทุ่ม ลงไปในสิ่งที่เราอยากเริ่มต้น
  2. เชื่อมโยงกับเป้าหมายที่สูงกว่าได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ คนสองคนคิดจะเปิดร้านกาแฟเหมือนกัน คนหนึ่งจะเปิดเพราะคิดว่าทำร้านกาแฟไม่น่ายาก น่าจะคืนทุนเร็ว กับอีกคนหนึ่งเปิดเพราะมีเป้าหมายจะเป็นนักธุรกิจชั้นยอดและมองว่าร้านกาแฟเป็นโอกาสได้เรียนรู้ธุรกิจจากการทำจริง จะเห็นว่าโอกาสของคนที่สองที่จะเริ่มต้น และประสบความสำเร็จมากกว่า
  3. หาเพื่อนที่สนใจจะเริ่มต้นเรื่องนั้นๆ ถ้าคิดว่ายากเกินไปถ้าต้องเริ่มต้นอะไรคนเดียว ลองหาเพื่อนที่สนใจเรื่องนั้นๆ ไว้เป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจ และเป็นเพื่อนร่วมในการเริ่มต้นเรื่องใหม่ๆ เช่น ถ้าอยากจะเริ่มต้นออกกำลังกาย ลองหาเพื่อนที่สนใจออกกำลังกาย คุยแลกเปลี่ยนความคิด ก็คงดีกว่าเดินดุ่มๆไปสมัครฟิตเนสคนเดียว (ยกเว้นจะตั้งใจว่าอยากไปเล่นคนเดียว :P)
  4. คิดว่าอุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ หลายๆคนถูกสอนมาแต่เด็กว่าอุปสรรคหรือความล้มเหลวนั้นเป็นสิ่งตรงข้ามกับกับความสำเร็จ เมื่อเราถูกโปรแกรมมาอย่างนั้น เราก็จะพยายามที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อจะหลีกเลี่ยงอุปสรรคและความล้มเหลว แต่ความจริงแล้วอุปสรรคและความล้มเหลวเป็นองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จ เสมอ!
  5. Just do it เริ่มต้นทำเลย ไม่ต้องคิดมาก หลายครั้งที่พลาดโอกาสดีๆไปเพราะตั้งท่านานไปหน่อย คิดว่ายังไม่พร้อม สุดท้ายก็ไม่ได้เริ่มอย่างที่คิด

สุดท้ายจะเริ่มไม่เริ่มก็อยู่ที่ตัวเรา ที่เหลือเป็นข้ออ้างทั้งนั้น…จริงมั้ย?