Work/Life Effectiveness By Jim Lafferty (Part II)

มาต่อกันจากตอนที่แล้วนะครับ

6. 80/20 นอกเหนือจากเรื่อง 80/20 สำหรับการเลือกงานที่จะทำ(ทำแล้วได้ผลงาน, เป็นชิ้นเป็นอัน, value added work)แล้ว ยังสามารถใช้เรื่อง 80/20 กับความสมบูรณ์แบบ(perfect)ของงาน งานส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แม่นยำถึง 100% บางคนใช้เวลาเดือนแรกทำให้ถึง80% เดือนที่สอง90% และเดือนที่สาม100% แทนที่จะใช้เวลาสองเดือนหลังไปทำงานชิ้นอื่นให้ได้80% อีกสองงาน

7. เพิ่มศักยภาพให้ทีมงานของคุณ (Train your people) เราสามารถบ้าพลังทำงานทุกอย่าง แทนทีมได้ถึงแค่ระดับนึง (Band 3) แต่ถ้าต้องการจะก้าวหน้าให้สูงขึ้นกว่านั้น คุณต้องสอนให้คนในทีมทำงานได้ ปัญหาตอนนี้ที่เป็นวงจรอุบาทว์อยู่คือ ทีมของฉันไม่เก่ง >> ฉันต้องทำงานแทนทีม >>ฉันเลยไม่มีเวลาสอนงานคนในทีม >>ทีมรู้สึกแย่เพราะไม่สามารถทำงานได้ตามที่ได้รับมอบหมาย>>ทีมก็เลยไม่เก่ง>> … ในองค์กรขนาด 2,000คนที่คุณจิม ดูแลอยู่ที่ฟิลิปปินส์นั้น เขาคิดไม่ออกว่าจะใช้เวลาอย่างไรให้มีประโยชน์มากไปกว่าการเทรนทีมของเขาให้เก่งขึ้น

8. ออกกำลังกายวันละ30นาที การออกกำลังกายจะช่วยร่นระยะการนอนหลับตั้งแต่เริ่มหลับจนถึงการหลับลึกในระดับ 4 (RAM) ซึ่งถือเป็นการนอนที่มีคุณภาพที่สุด ทำให้การนอนของเรามีคุณภาพมากขึ้นในเวลาที่ลดลง  จากการวิจัยพบว่าทุก30นาที ที่เราออกกำลังกาย เราสามารถลดเวลาในการนอนลงได้1ชั่วโมง เพราะเรานอนอย่างมีคุณภาพมากขึ้น แต่จะได้ผลแค่ออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมง ลดเวลานอนได้ 2 ชั่วโมงเท่านั้นนะ ไม่ใช่ว่าออกกำลังกาย 3 ชั่วโมง จะลดการนอนได้6ชั่วโมง :P

9. รักษาความสัมพันธ์ให้แข็งแรง การแต่งงานเป็นสิ่งที่มีชีวิต คุณต้องทะนุถนอมความรู้สึกของอีกฝ่าย คุณต้องลงทุนและดูแลความสัมพันธ์ของครอบครัวคุณ คุณจิมบอกว่าไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากได้ดอกไม้หลังแต่งงาน… (น่าคิด :))

10. ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สำหรับคน Gen-Y คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยเราประหยัดเวลาได้อย่างไร (more…)

ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ทุกบริษัทจะคาดหวังและต้องการเวลาจากพนักงานมากขึ้นเรื่อยๆ

พนักงานก็ดูมีความสุขน้อยลง เริ่มบ่นว่าใช้เวลาทำงานทั้งที่ทำงานและบ้านมากขึ้น

เครียดและล้าสะสมมากขึ้น…

ชีวิตมีแต่งาน งาน งาน

แล้วช้านจะหาแฟนได้มั้ยเนี่ยยยย… ^^”

ไม่ต้องแปลกใจว่าเรื่องนี้เกิดกับเรา หรือบริษัทของเราที่เดียวรึเปล่า?

จริงๆแล้วเรื่อง Work/Life Balance (Work/Life Effectiveness, etc.) นี้เป็นปัญหาใหญ่ในทุกองค์กรทั่วโลกเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าลาออกจากไปทำงานที่ใหม่แล้วจะไม่มีปัญหานี้

หลายบริษัทมีการจัดอบรมเรื่องการบริหารเวลา (Time Management) แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ช่วยเท่าไหร่

วันก่อนผมได้มีโอกาสดูคลิปการพูดของคุณจิม ลาฟเฟอร์ตี้ (Jim Lafferty) ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท พูดในการประชุมของผู้บริหารระดับสูงในทวีปอเมริกา เรื่องเทคนิคที่ได้เรียนรู้ในการจัดการชีวิตและงาน ซึ่งสรุปออกมาเป็น 15 เทคนิค

ซึ่งคุณจิมรับประกันว่าถ้าได้นำไปใช้ ชีวิตของคุณจะดีขึ้นทันที (โฆษณาให้หน่อย)

ผมเห็นว่าน่าสนใจเลยอย่างจะมาแบ่งปันกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2-3 ตอน ขึ้นอยู่กับความขยันนะครับ… ;D

_______________________________

สิ่งแรกที่เราควรรู้ก่อนคือ work/life balance ไม่เกี่ยวกับเวลา (more…)

เมื่อวานได้ดูโฆษณาตัวใหม่ของ Nike ซึ่งออกรับฤดูกาลฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า

รู้สึกว่า…โดน!!

โดนในแง่ที่ทำให้คำสอนที่เราเคยได้ยินกันอย่างชินหู 4-5 เรื่อง เห็นเป็นภาพเป็นเรื่องราวที่ชัดเจนภายในเวลา 3 นาที

  • วินาทีนี้เป็นวินาทีที่มีึค่าที่สุดในชีวิต คุณจะใช้มันอย่างไร
  • หลักของเหตุและผล (หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น)
  • ความหวัง – หากขาดความหวัง ชีวิตก็ไม่มีความหมาย อยู่ไปวันๆ
  • เป็นเลิศในสิ่งที่ทำ
  • เราเป็นเจ้าของชีวิตของเรา จงเขียนอนาคตของตัวเอง

ใครว่าโฆษณาจะมีแต่จะขายของ ทำให้เราโลภ… ว่าแต่ใครอยากได้รองเท้าฟุตบอลใหม่บ้างครับ? :P

สภาพบ้านเมืองของเราในสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากจะกระทบกับเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความคิดที่แตกแยกอย่างรุนแรงของคนในชาติ

ทำให้เรารอยยิ้มสยามที่เราเคยภูมิใจเหือดหายไปจากใบหน้าของคนไทย

ผมกับเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งก็ได้คุยกันและคิดว่าเราจะช่วยประเทศเราได้อย่างไร

สุดท้ายก็มาลงตัวที่การสร้าง Facebook Page เพื่อจะช่วยกันนำรอยยิ้มกลับมาสู่คนไทยอีกครั้ง

โดยที่ไม่เกี่ยวกับกับ มั่นใจว่าคนไทยเกิน1ล้านคน… (ฮา)

ซึ่งก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีหลังจากเปิดตัวไป3วัน (ขณะที่เขียนอยู่มีคนที่กดlike แล้ว 1,515คน)

ถ้าเพื่อนๆสนใจ สามารถเข้าไปดู Facebook Page ได้ตามlink ข้างล่างนี้

Thailand back to land of smiles

เร็วๆนี้จะเปิดตัวเวปไซต์และโครงการที่น่าสนใจต่างๆ

ถ้ามีข้อเสนอแนะอะไรก็แนะนำผ่านผม หรือจะเขียนที่ Thailand back to land of smiles ก็ได้นะครับ

ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้เมืองไทยกลับมามีรอยยิ้มเหมือนเดิม… ^___^

ป.ล. Page นี้ไม่มีสีนะครับ… ^^”

ทัศนคติเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จ

ผมเห็นVDO clip ข้างล่างจาก Facebook ของเพื่อนคนหนึ่งแล้วรู้สึกชอบมาก

เพราะสามารถสรุปความหมายและความสำคัญของทัศนคติ รวมถึงวิธีการปรับทัศนคติที่ดีทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น ได้กระชับ ได้ใจความ

เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย เลยเอามาแบ่งปันกัน