วันนี้บังเอิญไปเจอคลิปใน YouTube ของ อ.ชัชชัย ตั้งธรรม แห่ง Access ผ่าน Twitter @Chachchy โดยบังเอิญอีกเช่นกัน
จริงๆผมก็เป็นเคยหนึ่งในลูกศิษย์ของอ.ชัชชัย สมัยเรียน ม.4 ยังจำได้ว่าหลังเลิกเรียนก็ออกประตูหลังตึกคุณหญิงหรั่ง ลัดเลาะผ่านคณะสัตวแพทย์ มาแวะทานข้างที่โรงอาหารเภสัช ก่อนเดินไปเรียนที่สยาม
ก่อนที่จะกลายเป็นโพสระลึกถึงความหลัง 10+ ปี ไปมากกว่านี้ กลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า ^^”
ในคลิปนี้อ.ชัชชัย พูดถึงวิธีการคิดจากคำถามที่ว่า ร้อยล้านทำได้จริงเหรอ?
ซึ่งเงินร้อยล้านก็เปรียบเสมือน 1 ในเป้าหมายที่เราต้องการ
เป้าหมายเราอาจจะเป็น จบปริญญาเอก, มีแฟนสวย/หล่อ, มีบ้านสวยๆ รถเท่ๆ เป็นต้น
ไอเดียนึงที่ผมได้จากการดูคลิปนี้คือ มุมมอง และกรอบในการคิด เพื่อไปถึงเป้าหมาย
คนส่วนใหญ่รู้ว่าเป้าหมายคืออะไร ก็จะหาวิธี “ทำยังไง” ให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมองจากกรอบของเราเป็นที่ตั้ง
และกรอบนี้เองที่จะปิดกั้นไม่เราไปถึงเป้าหมายที่เราหวัง
จึงไม่น่าแปลกใจที่ บางครั้งเราไม่เข้าใจ ความคิด หรือการกระทำบางอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จ
ในทางกลับกัน…
ถ้าเราเข้าใจว่าวิธีการคิด หรือสิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จทำคืออะไร ซึ่งในที่นี้ อ.ชัชชัย ใช้คำว่า “ต้องเป็นยังไง”
ซึ่งเกิดจากการมองกลับ ในมุมของคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว
จะช่วยให้ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะต้องทำ เพื่อให้ได้เป้าหมายนั้น แม้อาจดูตลก หรือ แปลกในสายตาคนส่วนใหญ่
เพราะถ้าสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำเป็นสิ่งที่จะทำให้สำเร็จ ป่านนี้ทุกคนก็คงประสบความสำเร็จหมดแล้ว
ผมขอจบด้วย
บทสัมภาษณ์: พนักงานคนแรกของ Pinterest ที่มีเงินเก็บมากกว่า $100,000 ก่อนอายุ 16
อะไรคือวิธีการคิด และความต่างที่ทำให้เขามีในสิ่งที่เราไม่มี
ไม่ได้บอกว่าอ่านแล้วต้องทำอย่างเขา เพราะแต่ละคนก็มีจุดแข็งของตัวเองที่แตกต่างกัน
เพียงแต่เราจะมองออก และนำมาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เราประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้
ก็เท่านั้นเอง…
ถ้าพูดถึงการเรียนต่อปริญญาโทต่างประเทศ เชื่อว่าประเทศที่อยู่ในใจหลายคนคงไม่พ้น อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ออสเตรเลีย
วันก่อนผมได้แนะนำประเทศสวีเดน ไปสั้นๆทาง Twitter ของผม (@Chutchapol) ในฐานะศิษย์เก่าคนหนึ่ง
เพราะไม่อยากให้หลายคนมองข้ามประเทศนี้ไป เลยมาลองคิด 5 เหตุผลที่คุณควรไปเรียนต่อที่ประเทศสวีเดนดู
1. มาตรฐานการศึกษาสูง
อยากรู้มาตรฐานของการศึกษาของประเทศไหน ให้ดูคุณภาพของคนประเทศนั้น สำหรับประเทศสวีเดนซึ่งมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน แต่สินค้า และ ยี่ห้อที่มีคุณภาพและดังระดับโลกมากมาย เช่น Volvo, H&M, IKEA, SAAB, ABB, Skype, Ericsson, Electrolux เป็นต้น
หลายคนคงเคยชินกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆ ผมเคยถามเพื่อนที่สวีเดน เค้าบอกว่าสวีเดนไม่มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัย เพราะมาตรฐานทุกที่ไม่ต่างกัน มีแต่ที่ไหนเชี่ยวชาญด้านไหน
2. ยังมีโอกาสเรียนฟรี หรือขอทุนการศึกษาได้ง่าย
น่าเสียดายที่ประเทศสวีเดนเพิ่งเริ่มเก็บค่าเทอมจากนักศึกษาต่างชาติ (นอก EU/EEA และ สวิสเซอร์แลนด์) เมื่อปี 2010 นี่เอง เพราะต้องการลดจำนวนนักเรียนที่ตั้งใจลี้ภัยสงครามจากตะวันออกกลางมากกว่าไปเรียน (ข้อมูลจาก @paeguay) ซึ่งตอนที่ผมเรียน แม้ไม่ได้ทุน แต่ถ้ามหาวิทยาลัยรับก็เรียนฟรีเลย
อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ มหาวิทยาลัย ยังเปิดโอกาสให้ทุนการศึกษา 50-100% ของค่าเทอมอยู่ ต้องหาดี ๆ นิดนึง
3. ไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาที่ 3
นี่เป็นอีกสาเหตุที่ผมเลือกไปเรียนที่สวีเดน แม้ตอนแรกตั้งใจจะไปต่อโทที่เยอรมัน ถึงขนาดไปเรียนภาษาที่เกอเธ่ 2-3 หลักสูตร ก่อนจะยอมแพ้กับ grammar และเพศทั้ง 3 สวีเดนมีหลักสูตร international ค่อนข้างหลากหลาย และสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพูดภาษาสวีดิชเป็นเลย เพราะคนของเขาตั้งแต่เด็กยันชรา สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี(มาก)ทุกคน แถมไม่ติดสำเนียงเหมือนหลายประเทศในยุโรป ทำให้ฟังและเข้าใจได้ง่าย
4. เที่ยวสบาย
เนื่องจากตอนไปเรียน เราจะได้วีซ่าเชงเก็น (Schengen Visa) ซึ่งจะทำให้เข้าประเทศแถบยุโรปได้มากมาย (ยกเว้นอังกฤษ) จึงเหมาะแก่การเที่ยวมาก เพื่อนๆผมแทบทุกคนที่ไปเรียนยุโรป จะใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต (เที่ยว) ไม่น้อยกว่าเวลาในห้องเรียนเลยทีเดียว :D
รูปนี้ถ่ายตอนที่ Backpack เที่ยวยุโรป คนเดียวอยู่ครึ่งเดือน โดยไปพักบ้านเพื่อนๆยุโรปที่เรียนโปรแกรมเดียวกัน แล้วให้เค้าพาเที่ยว แบบ Local Guide (ประหยัด และประทับใจสุดๆ)
5. หนุ่ม-สาว หน้าตาดี
หนุ่ม-สาว ประเทศนี้โดยเฉลี่ย จะหน้าตาดี หุ่นดี เหมือนนายแบบ นางแบบเลยทีเดียว (โดยเฉพาะถ้าเทียบกับคนอังกฤษ) ถ้าไม่เชื่อ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้
…
ก็นับข้อดีได้ 5 ข้อแล้ว ผมก็ฝากพิจารณาประเทศสวีเดนไว้พิจารณา เวลาหาที่เรียนต่อแล้วกันนะครับ
ป.ล. ผมควรเรียงเหตุผลจากล่างขึ้นบนใช่มั้ยครับ… :P
……..
เนื่องจากมีหลายคนติดต่อผม อยากถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนไปเรียนที่สวีเดน ผมเลยเปิดบริการตอบคำถามซะเลย ถ้าสนใจ กดที่นี่ ครับ
………..
ข้อมูลผู้เขียน:
นักเรียนทุนรัฐบาลสวีเดน (STINT) ศึกษาปริญญาโท สาขา Manufacturing Management (International Program) ที่ Linköping University ปีการศึกษา 2003
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้
วันนี้วันตรุษจีน ผู้คนมากมาย หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส
เด็กๆที่เพิ่งได้อั่งเปาจากญาติๆ ก็ออกมาเที่ยว ใช้จ่ายสมกับที่วันนี้เป็นวันเที่ยว
น่าเสียดาย ที่วันนี้ก็เป็นวันสอบสำหรับนักเรียน และเป็นวันทำงานสำหรับคนอีกไม่น้อยเหมือนกัน (รวมถึงผมด้วย ^^”)
ช่วงเวลาดีๆอย่างนี้ เราจะเห็นคนอวยพรกันมากมาย
ซึ่งเรื่องที่อวยพรก็ไม่พ้นเรื่องสุขภาพกาย ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เงินทองไหลมา เทมา
และอีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆคนอยากมี คือ เป็นคนโชคดี
พูดถึงเรื่องโชคดี คนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเป็นเรื่องของโชคลาง เราควบคุมอะไรไม่ได้
พอดีผมอ่านบทความจากหนังสือ The Luck Factor ของ Richard Wiseman
ซึ่งเขาทำการค้นคว้าและวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นเวลา 10 ปี จากคนที่โชคดีมากๆ และโชคร้ายมากๆ
เพื่อหาว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คนเหล่านี้โชคดี และมีวิธีที่จะเพิ่มโอกาสให้ตัวเองโชคดีมั้ย หรือว่าโชคดีมันแค่เป็นดวงของคนนั้นๆ
จากการวิจัย คุณ Richard พบว่าคนโชคดี สร้างโอกาสให้เกิดโชค ด้วยหลักการ 4 ข้อ
นั่นแปลว่า คุณเองก็สามารถเพิ่มโอกาสโชคดีให้กับตัวเองได้!! :)
หลักการ 4 ข้อนั้นประกอบด้วย (more…)
ในชีวิตของเรา เราใช้เวลากับส่วนไหนมากกว่ากัน
ระหว่าง สิ่งที่เรารู้ สิ่งที่เราไม่รู้(แต่คนรอบตัวเรารู้) หรือ จินตนาการ (สิ่งที่ยังไม่มีใครรู้)
…
วันนี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมพูดคุยจิบกาแฟกับกลุ่ม trainer club
ท่าน อ.ณรงค์วิทย์ แสนทอง ได้เสนอให้เห็นความต่างของ 3 เรื่องนี้ในรูปแบบกิจกรรม
ผมขออนุญาตถอดบทเรียนที่ได้มาแบ่งปันในนี้แล้วกัน (more…)
ปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆของตัวเองในปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะประเมินตัวเองในปีนี้ ผมเริ่มจากการกลับไปอ่านสิ่งที่ผมประเมินตัวเองในปีที่ผ่านมา ( 2010, 2009)
และผมแบ่งเป็นหมวดๆเหมือนปีที่ผ่านมาเพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ
สุขภาพร่างกาย (B+) Flat vs. Year Ago (YA)
ปีนี้สุขภาพอยู่ในสภาพที่ดี มีบางอย่างที่พัฒนาขึ้นจากปีที่แล้ว ทั้งเรื่องการลดกาแฟ จากที่ดื่มทุกวัน เป็นไม่ดื่ม และกลับมาดื่มเท่าที่จำเป็นจริงๆ ฟันไม่ผุจากการตรวจทั้ง 2 ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา ผลการตรวจสุขภาพประจำปี ก็อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกตัว และการเข้าฟิตเนส เพื่อออกกำลังกายในส่วนกล้ามเนื้อต่างๆ ขณะที่มีบางอย่างที่เริ่มต้องปรับปรุงเช่น การนอนที่สวิงระหว่างวันธรรมดา กับวันหยุดมาก และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและสร้างฐานใหม่อย่างเข้มแข็ง… – -“
Improvement Areas
ปีนี้ขอเน้นแค่ 2 เรื่อง (more…)