ในชีวิตของเรา เราใช้เวลากับส่วนไหนมากกว่ากัน
ระหว่าง สิ่งที่เรารู้ สิ่งที่เราไม่รู้(แต่คนรอบตัวเรารู้) หรือ จินตนาการ (สิ่งที่ยังไม่มีใครรู้)
…
วันนี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมพูดคุยจิบกาแฟกับกลุ่ม trainer club
ท่าน อ.ณรงค์วิทย์ แสนทอง ได้เสนอให้เห็นความต่างของ 3 เรื่องนี้ในรูปแบบกิจกรรม
ผมขออนุญาตถอดบทเรียนที่ได้มาแบ่งปันในนี้แล้วกัน
กิจกรรมก็ง่ายๆ แค่จับคู่ แล้วชวนคู่ของเราคุยใน 3 หัวข้อ หัวข้อละ 5 นาที ซึ่งหัวข้อคือ
- เรื่องที่เรารู้ ถนัด/เชี่ยวชาญ
- เรื่องที่คู่ของเรารู้ ถนัด/เชี่ยวชาญ
- เรื่องที่เราและคู่ของเราไม่มีความรู้เลย
หลังจากผ่านไป 15 นาที อ.ณรงค์วิทย์ ก็ถามความรู้สึกของแต่ละคู่ ระหว่างที่พูดคุยหัวข้อต่างๆ
สิ่งที่พบคือ
- ในการคุยเรื่องที่เรารู้ ถนัด/เชี่ยวชาญนั้น เราแทบจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มจากเดิม อาจจะได้มุมมองใหม่จากการถามของคู่เราบ้าง แต่น้อยมากที่คู่ของเราจะแย้ง เพราะเกรงใจผู้พูด หรือไม่รู้เรื่องนั้นจึงไม่กล้าแย้ง
- ในการคุยเรื่องที่คู่ของเรารู้ ถนัด/เชี่ยวชาญ บางคนอาจชอบที่ได้รู้อะไรใหม่ ขณะที่บางคนอาจรำคาญเพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่เราสนใจ แต่ทนฟังเพราะเกรงใจ
- สำหรับการคุยเรื่องที่ทั้งคู่ไม่รู้ ส่วนตัวผมว่าสนุกสุด เพราะได้จินตนาการเรื่องนั้นไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม วิธีที่เราพูดถึงเรื่องนั้นก็จะมาจากกรอบที่เรารู้ จากประสบการณ์ หรือสิ่งที่เรียนมา บางคนอาจจะใช้เวลานานในการหาเรื่องที่ตัวเองไม่รู้ เพราะลึกๆยอมรับไม่ได้ว่ามีเรื่องที่ตัวเองไม่รู้เรื่องเลย
ประเด็นคือ เวลาในชีวิตของเราส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนที่เรารู้ หรือเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เสมือนอยู่ใน comfort zone ของเรา มีบ้างที่เราต้องออกนอกวง comfort zone แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่คนอื่นถนัดซึ่งก็ยังอยู่ภายใต้กรอบ (ที่เขารู้)
น้อยนักที่เราจะได้ใช้จินตนาการ ในเรื่องที่ทั้งคู่ไม่มีความรู้ ซึ่งก็คือกรอบที่จำกัดความเป็นไปได้ หรือความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ
และจินตนาการนี่แหละที่จำเป็นสำหรับการสรรสร้างสิ่งใหม่ๆในโลกใบนี้
…
วันนี้คุณได้ใช้จินตนาการแล้วรึยัง?
ป.ล. ขอขอบคุณ อ.ณรงค์วิทย์ แสนทอง สำหรับหนังสือ กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน หนังสือเล่มใหม่ของอาจารย์ครับ… :)