Work/Life Effectiveness By Jim Lafferty (Part I)

tips / 14 June 2010 / 265

ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ทุกบริษัทจะคาดหวังและต้องการเวลาจากพนักงานมากขึ้นเรื่อยๆ

พนักงานก็ดูมีความสุขน้อยลง เริ่มบ่นว่าใช้เวลาทำงานทั้งที่ทำงานและบ้านมากขึ้น

เครียดและล้าสะสมมากขึ้น…

ชีวิตมีแต่งาน งาน งาน

แล้วช้านจะหาแฟนได้มั้ยเนี่ยยยย… ^^”

ไม่ต้องแปลกใจว่าเรื่องนี้เกิดกับเรา หรือบริษัทของเราที่เดียวรึเปล่า?

จริงๆแล้วเรื่อง Work/Life Balance (Work/Life Effectiveness, etc.) นี้เป็นปัญหาใหญ่ในทุกองค์กรทั่วโลกเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าลาออกจากไปทำงานที่ใหม่แล้วจะไม่มีปัญหานี้

หลายบริษัทมีการจัดอบรมเรื่องการบริหารเวลา (Time Management) แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ช่วยเท่าไหร่

วันก่อนผมได้มีโอกาสดูคลิปการพูดของคุณจิม ลาฟเฟอร์ตี้ (Jim Lafferty) ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท พูดในการประชุมของผู้บริหารระดับสูงในทวีปอเมริกา เรื่องเทคนิคที่ได้เรียนรู้ในการจัดการชีวิตและงาน ซึ่งสรุปออกมาเป็น 15 เทคนิค

ซึ่งคุณจิมรับประกันว่าถ้าได้นำไปใช้ ชีวิตของคุณจะดีขึ้นทันที (โฆษณาให้หน่อย)

ผมเห็นว่าน่าสนใจเลยอย่างจะมาแบ่งปันกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2-3 ตอน ขึ้นอยู่กับความขยันนะครับ… ;D

_______________________________

สิ่งแรกที่เราควรรู้ก่อนคือ work/life balance ไม่เกี่ยวกับเวลา

ไม่ได้หมายความว่าคนที่ทำงาน 8 ชั่วโมงปั๊บ สามารถกลับบ้านได้คือคนที่มี work/life balance ที่ดี

แต่เรื่องนี้มันขึ้นกับมุมมองของตัวเองและคนรอบตัวเราว่ามี work/life balance ที่ดีแค่ไหน

มาดูกันว่าเทคนิค 15 ข้อที่จะช่วยให้คุณจิม มีwork/life balance ที่ดีมีอะไรบ้าง (คุณจิมให้คะแนนตัวเอง 4/5 ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท)

  1. กำหนดบทบาททั้ง5 ในชีวิตแต่ละคนจะมีบทบาทที่ต่างกันไป เช่น พ่อ, สามี, ลูก, เพื่อน, พนักงาน, ประธานชมรมสามล้อ, นักดนตรี, ฯลฯ บางคนอาจมีเป็นสิบ ซึ่งไม่มีทางที่เราจะทำหน้าที่ในทุกบทบาทได้อย่างมีคุณภาพในเวลาที่เรามีอยู่วันละ 24 ชั่วโมง ลองเลือกบทบาทที่จำเป็นกับเราจริงๆแค่ 5 บทบาทหลักๆในชีวิตของเรา และเลือกที่จะปฏิเสธที่บทบาทอื่น ถ้าต้องการจะเพิ่มอีกหนึ่ง ก็ต้องลดอีกหนึ่งบทบาท
  2. ใช้ปฏิทินเดียวในชีวิต คนส่วนใหญ่จะมีหลายตาราง ตารางงานของบริษัท(Outlook) ตารางส่วนตัวในรูปแบบต่างๆ (Google calendar, PDA, สมุดโน้ต) ซึ่งจะมีหลายครั้งที่ตารางงานจะทับกับเรื่องส่วนตัว แต่คนที่นัดจะไม่เห็น และเกือบทุกครั้งเรื่องงานก็จะชนะเรื่องส่วนตัว… – -” ให้แก้ด้วยการใช้ปฏิทินเดียว ใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น แต่อาจไม่จำเป็นต้องเขียนรายละเอียดถ้าไม่อยากให้คนอื่นเห็น แต่อย่างน้อยให้เห็นว่าเวลานี้ไม่ว่าง ชีวิตจะง่ายขึ้นอีกเยอะเลย
  3. ในเหตุการณ์สำคัญ (defining moment) ให้เลือกครอบครัวเสมอ โดยเฉลี่ยเราจะมีเหตุการณ์สำคัญกับที่ครอบครัวหรือคนที่เรารักต้องการเรา เช่น วันครบรอบแต่งงาน วันรับปริญญาลูก วันที่ลูกแสดงละคร เป็นต้น ประมาณ 5-6 ครั้งต่อปี ให้แน่ใจว่าเราไม่พลาดเพราะงาน หรือเหตุผลอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าเค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ
  4. ลาพักร้อนให้ได้พักจริงๆ ไม่ต้องเอาnotebook ไป เช็คเมลทุกวัน เปิดBB บริษัท ขนาด CEO ยังทำได้ อย่าไปกลัวว่าบริษัทจะเจ๋ง ถ้าขาดเราซักอาทิตย์ ให้มั่นใจว่าทีมเราสามารถทำงานได้โดยไม่มีเรา(ช่วงพักร้อนนะ ไม่ใช่ตลอดไป :P) กลับมาถ้าลืม password เข้าคอม หรือเมล แสดงว่าเราได้พักผ่อนจริงๆ… :D
  5. ฝึกการเขียน Memo การเขียน 1-page memo ที่ดีเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของบริษัท ที่จะช่วยให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดเวลาในการเข้าใจผิดได้มาก (ข้อนี้อาจจะเป็นเทคนิคภายในบริษัทนิดนึง)

วันนี้เอาเท่านี้ก่อน โปรดติดตามเทคนิคข้อ 6-15 ได้ในตอนต่อไป…

____________________________________________________________

ถ้าชอบบทความนี้ คุณอาจจะสนใจ Monday’s Spark with Chutchapol.com ซึ่งผมคัดไอเดียเจ๋งๆ คำถามสั้นๆ ที่จะช่วยกระตุ้นพลังในการทำงานทุกเช้าวันจันทร์

Click Here to Subscribe