“ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ”
อ.ไชยยศ ปั้นสกุลไชย กล่าวต้อนรับผู้ชมสู่งานทอล์คการกุศล Give&Take ครั้งที่ 8 ในหัวข้อ THAI Story เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 กุมภาพันธ์)
งานนี้ต้องบอกว่าคุ้มจริงๆเพราะนอกจากได้มุมมอง แง่คิด จากวิทยากรหลากหลายอาชีพ แล้วรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดยังได้ร่วมสมทบทุน มูลนิธิพระดาบส
ทอล์คการกุศลนี้ ได้ 20 วิทยากร โดย 10 ท่านเป็นลูกศิษย์ อ.ไชยยศ และอีก 10 ท่านเป็นวิทยากรชั้นนำจากหลากหลายอาชีพ โดยแต่ละท่านมีเวลาเพียง 15 นาที ในการนำเสนอ ซึ่งสำหรับวิทยากรส่วนใหญ่ที่มักจะบรรยายทีละหลายๆชั่วโมง ถือเป็นเรื่องท้าทายทีเดียวเลยที่จะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในเวลาที่จำกัดแบบนี้
ทุกท่านล้วนมีมุมมองนำเสนอที่น่าสนใจ ผมขออนุญาตยกตัวอย่างบางท่าน มาเป็นตัวอย่าง
อ.สวยศ ด่านบรรพต มาในชุดโปรกอล์ฟ พร้อมเทคนิคในการเรียนรู้ทุกอย่างผ่าน G.O.L.F.
G: Guru
เรียนรู้จากกูรู หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ซึ่งอาจเป็นคน หรือหนังสือ หรือแม้กระทั่งอินเทอร์เน็ต หรือ YouTube ก็เป็นครูเราได้
O: Over&Over again
เมื่อรู้วิธีการแล้ว ก็ต้องฝึก ฝึกแล้วฝึกอีก อ.สวยศ ยกตัวอย่างเวลาเรียนตีกอล์ฟ 1 ชั่วโมงนั้น เราควรไปซ้อมก่อนเริ่มเรียน 1 ชั่วโมง เรียน 1 ชั่วโมง และซ้อมหลังเรียนอีก 1 ชั่วโมง
L: Lessons Learned
ซ้อมแล้วก็ต้องลงสนามจริง เพื่อให้เจอปัญหา และเรียนรู้จากการทำหรือปฏิบัติจริงๆ
F: Feedback
สุดท้ายก็ต้องเปิดรับฟังความเห็นจากผู้อื่น เพื่่อปรับปรุงในส่วนที่เราทำไปแล้วผิต แต่ยังมองไม่เห็น
อ.ทวีวรรณ กมลบุตร (อ.A) กับในหัวข้อ Little Voice หรือเสียงเล็กๆในใจเรา ที่จะมาทุกครั้งที่เราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือลองอะไรใหม่ๆ
จะมีเสียงทั้งด้านบวก และด้านลบ เข้ามาและหลายครั้ง เสียงด้านลบมักจะเสียงดังกว่าด้วยเหตุผลที่ดูมีน้ำหนักว่าจนเราไม่ได้เริ่มสิ่งใหม่ๆ
อ.A แนะนำให้หาเหตุผลด้านบวก ให้ได้มากกว่าด้านลบ และแนะนำให้ตั้งโปรแกรมเก็บเสียงด้านบวกให้กับตัวเอง ด้วยการบอกตัวเองทุกๆเช้า ว่า
“ฉันเก่ง ฉันทำได้ ฉันมั่นใจ”
อ.สุวัชชัย แก้วทรัพย์ศักดิ์ (อ.โจ้) มาแบ่งปันมุมมองของการ เปิดรับโอกาสดีๆให้ชีวิต
คนส่วนใหญ่ไม่เคยให้โอกาสตัวเองที่จะลอง แต่กลับบอกว่าทำไม่ได้ ซึ่งจริงๆมันอาจเป็นเพราะเราไม่ชำนาญ ไม่เคยฝึก เช่นเดียวกับการลองเขียนหนังสือด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด เราอาจเขียนได้ไม่ดี แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ถ้ามีโอกาสได้ฝึก ก็จะเขียนได้ดีขึ้น
ช่วงบ่ายมีวิทยากรระดับมืออาชีพอีก 10 ท่าน มาแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ โดยอยู่ในกรอบเวลา 15 นาทีเช่นกัน
ขอแบ่งปันสิ่งที่ผมจับประเด็นที่ประทับใจในแต่ละท่าน ดังนี้
อ.สุพรรณิการ กุสุมาวลี (What’s eating you?)
- จากประสบการณ์การสอน presentation skill มักจะสนใจเรื่อง เนื้อหา (Content) กับวิธีการนำเสนอ (Style) แต่อีกปัจจัยนึงที่หลายคนมีปัญหาคือ ความตื่นเต้นในการนำเสนอ
- สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับความตื่นเต้นในการนำเสนอ คือ 1) คนอื่นก็เป็น 2) ไม่สามารถทำให้หายได้ แต่จะทำให้ลดลงได้
- วิธีจัดการกับความตื่นเต้น 1) เปลี่ยนมุมมองให้เป็นความท้าทาย หรือเป็นโอกาสที่ได้เสนอกับผู้ใหญ่ หรือคนอื่น 2) สะกดจิตตัวเอง 3) ซ้อมเยอะๆ 4) วิเคราะห์ผู้ฟัง
คุณพีระณัฐ (โทนคุง) จำปาเงิน (Keep Walking)
- ต้นทุนชีวิตแม้สู้คนอื่นไม่ได้ ก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น
- สร้างความแตกต่างชัดเจน ให้คนอื่นจำได้
- ไม่ย่อท้อ ยอมแพ้ แม้จะถูกปฏิเสธ
- แมวมองมีอยู่ทุกที่ เพราะฉะนั้นเวลาทำงานต้องเต็มที่เสมอ
อ.สมสิทธิ์ มีแสงนิล (ศิลปะการใช้ชีวิตร่วมกัน)
- แต่ละคนมีลักษณะที่ต่างกัน ควรเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อปรับตัวในการใช้ชีวิตร่วมกัน
- อ.สมสิทธิ์ ยกตัวอย่างคนเป็น 4 ประเภท ด้วยตัวการ์ตูน พร้อมชื่อน่ารัก ประกอบด้วย น้อง Dun (ดัน..ทุรัง) น้อง Ivy (Innovative) น้อง Sugar (ใจดี มีแต่ให้) และน้อง Cut (ชอบกฏ เน้นระเบียบ)
อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล (อย่าปล่อยให้ไอเดียหลุดลอย)
- ไอเดีย มักเกิดขึ้นเวลาไม่ตั้งใจ เราซึ่งควรมีอุปกรณ์ในการบันทึกให้พร้อม ซึ่งอาจเป็นสมุดบันทึก กับปากกาธรรมดา หรือ smart phone รุ่นล่าสุดที่บันทึกภาพ เสียง พร้อม วีดีโอก็ได้
- จากการวิจัย การเขียน เป็นการสื่อสารกับสมองโดยตรง ซึ่งจะช่วยในการจำได้ดีขึ้น
- กฏ 3 ข้อ จด จำ แจก, ไอเดียมากมายถ้าไม่จดแล้วก็จะลืม จำ ด้วยการอ่านสิ่งที่จด และแจกไอเดียผ่านสื่อต่างๆ ทั้งการบอกต่อ เขียน blog ผ่าน Facebook, YouTube เพื่อให้มีการต่อยอดทางความคิด ที่หลายครั้งเราอาจทำไม่ได้ แต่ไอเดียเราจะไปจุดประกายและเป็นประโยชน์กับคนอื่นต่อ
- สร้างนิสัยสร้างสรรค์ ด้วยการ ตั้งโปรแกรมหรือ App ให้ตัวเราเอง If… Then ถ้าฉันเกิดไอเดีย ฉันจะรีบจดทันที
คุณสุนทรา สัจจะวัชรพงศ์ (ไข่ตุ๋น)
- ไข่ตุ๋น เป็นสุนัขพันธุ์พิทบูลที่เคยกัดคุณยายท่านหนึ่งจนเสียชีวิต แต่เมื่อได้รับความรัก การดูแล และการฝึกอย่างถูกวิธีก็กลายเป็นสุนัขที่เชื่องและน่ารักได้
- สิ่งที่คุณสุนทราได้เรียนรู้และมาแบ่งปันจากการเลี้ยงสุนัข มีอยู่หลายเรื่อง แต่สรุปคือ จงอดทน เชื่อมั่น รอคอย และให้โอกาส ซึ่งผมว่าหลายคนที่เคยพลาด และถูกตัดสินการกระทำในอดีตจากสังคมก็ต้องการ ความรู้สึกนึ้เหมือนกัน
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล (เรียนรู้เรื่องรัก…รู้จักชีวิตคู่)
- คุณหมอปล่อยมุกพรั่งพรูมากจนจดไม่ทัน ขำกระจาย จำได้แต่วงกลม 2 วง (Love, Sex) ที่มีจุดร่วมตรงกลาง
- Sex without love = have sex
- Sex with love = make love
- Love without sex = Compassion
- Love with sex = passion
อ.วิเชียร ไชยบัง (นอกกะลา คือ ปาฏิหาริย์)
- อ.วิเชียร ครูใหญ่โรงเรียนนอกกะลา มาเล่าถึงแนวคิด และวิธีการสอนของโรงเรียนที่อาจฟังดูแปลกสำหรับคนที่อยู่ในการศึกษากระแสหลัก
- การเรียนที่ไม่มีเสียงระฆังเข้าเรียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการเปรียบเทียบ แต่เน้นให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตั้งคำถาม และเห็นความเชื่อมโยงของ เพื่อเข้าใจแก่นแท้ของศาสตร์ต่างๆ
ผศ.ดร.วาสิตา บุญสาธร (The Power of Appreciation)
- ใครๆก็ต้องการการชื่นชม ซึ่งผลของการชื่นชมในองค์กร คือ รักษาคน สร้างทีม สร้างผลงาน
- วิธีการชื่นชม ทำได้ง่ายและหลากหลาย แต่สำคัญที่เราเห็นคุณค่าของคนนั้นจริงๆ
ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด (Where we hide? Why we here?)
- เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จะเกิดความคิด กับอารมณ์ ซึ่งจะเสริมซึ่งกันและกันหนาขึ้นเรื่อยๆ เสมือนชั้นของหัวหอม
- วิธีรับมือที่ดีที่สุด คือการมีสติ รู้ตัว ไม่ไปวิ่งตามความคิดและอารมณ์
อ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์ (โค้ชคร่อมกรอบ)
- คิดไม่ออก หรือ คิดแล้วไม่ยอมให้เราออก
- กรอบมีหลายชั้น เริ่มจากกรอบความคิดของตัวเอง ขององค์กร จนไปถึงกรอบของสังคม
- ถ้าคิดนอกกรอบสังคมเกินไป อาจทำไม่ได้จริง เพราะสังคมไม่ยอมรับ
- คนส่วนใหญ่ติดกรอบเพราะความกลัว ให้ถามตัวเอง 1) เรากลัวอะไร? 2) แล้วไง? 3) ที่กลัวนี่จริงรึปล่าว?
สุดท้าย ผมขอขอบคุณอ.ไชยยศ อีกครั้งที่จัดงานดีๆแบบนี้นะครับ ผมเชื่อว่าการให้ แม้ไม่หวังอะไร ก็ได้กลับไปในรูปต่างๆทุกคน ผมเขียน blog นี้ก็เหมือนการ pay it forward สำหรับคนที่ไม่ได้มีโอกาสไปร่วมงาน จะได้รับรู้ความตั้งใจดีของผู้จัดงาน และวิทยากรทุกท่านที่มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆกัน