คุณนิยาม มืออาชีพ ว่าอย่างไร?
ระหว่างที่ฟังคุณวิเชียร จึงวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการของ CP Retailink เล่าเรื่องการบริหารคนในองค์กร ท่านก็ถามผมขึ้นมา ซึ่งผมก็คิดซักพักแล้วตอบอย่างกระอ้อมกระแอ้มว่า มืออาชีพน่าจะเป็นคนที่มีความสามารถ รู้หน้าที่ และทำตามมาตรฐานที่องค์กรคาดหวังได้ดี ทำให้สิ่งที่ควรทำโดยไม่อิงกับความรู้สึกของตัวเอง ท่านฟังแล้วพูดขึ้นว่า ในมุมของท่าน
มืออาชีพ คือ บุคคลที่สมควรได้รับค่าจ้าง
คุณวิเชียรคงเห็นผมนั่งนิ่ง อ้าปากค้างเลยขยายความต่อว่า มืออาชีพคือคนที่มีความสามารถและทำงานได้ตามที่คาดหวังได้ 100% ถึงเป็นคนที่สมควรได้รับค่าจ้าง 100% ด้วย
ถ้ามองในมุมของนายจ้าง สามารถมองความความสามารถโดยดูจากผลลัพธ์ของงานได้ 5 ระดับเหมือนบันได 5 ขั้น ในแผนภาพนี้
เริ่มจากบันไดขั้นแรกคือการสัมภาษณ์ ถ้าคุยและทดสอบความสามารถเบื้องต้นแล้ว ไม่ผ่านครึ่งหนึ่งของเกณฑ์ที่มองหาสำหรับตำแหน่งนั้น คนกลุ่มนี้ก็จะไม่ได้ไปต่อ ไม่ได้ทำงาน ก็คือไม่ได้ค่าจ้าง
ถ้าผ่านการสัมภาษณ์เข้ามา มีโอกาสได้ทำ ในช่วงทดลองงาน ซึ่งพนักงานก็ต้องเรียนรู้ และแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความสามารถที่จะทำงานที่รับมอบหมายได้ ขณะที่นายจ้างก็มีความเสี่ยงที่รับคนไม่ใช่เข้ามา เพราะหลายอย่างไม่สามารถบอกได้จากช่วงการสัมภาษณ์ บริษัทก็รับความเสี่ยงตรงนี้ส่วนหนึ่ง โดยถ้าพนักงานไม่สามารถแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถถึง 80% ของความคาดหวัง หัวหน้างานก็ไม่ควรให้ผ่านการฝึกงาน
หากผ่านช่วงฝึกงานมาได้ พนักงานควรมีความสามารถจะทำงานได้อย่างน้อย 80% และหากทำได้ครบถัวน 100% ถือว่าทำเป็น เป็นมืออาชีพ สมควรได้รับค่าจ้าง 100% ของตำแหน่งงานนั้น
ถ้าพนักงานไม่เพียงทำเป็นแต่ทำเป็นได้ผลลัพธ์เกินความคาดหมาย หัวหน้างานควรพิจารณาให้เป็น Talent และเลื่อนตำแหน่งตามความเหมาะสมต่อไป
แผนภาพนี้ดูง่ายๆ ตรงไปตรงมานี้สะท้อนความสามารถ และค่าตอบแทนที่ควรต้องสอดคล้องกัน ในมุมพนักงาน โอกาสและค่าตอบแทนมาพร้อมกับความคาดหวังขององค์กร การเป็นมืออาชีพคือการมีความสามารถและพัฒนาตัวเองเพื่อทำเป็น หรือทำได้เกินความคาดหมาย
ในมุมของหัวหน้างานและนายจ้าง ความสมดุลของค่าจ้างกับความสามารถของพนักงานเป็นสิ่งที่สำคัญ หากผลตอบแทนไม่สะท้อนผลงานและความสามารถ ก็มีโอกาสที่จะเสียคนเก่ง หรือจ่ายให้กับคนที่ไม่สร้างผลงานอย่างที่คาดหวังมากเกินได้
ปัญหาที่เกิดในหลายองค์กรเกิดจากหัวหน้างานรับคนที่ความสามารถไม่ถึง 50% เข้ามาทำงานเพราะขาดคนเลยรับๆ เข้ามาก่อน แล้วปล่อยให้ผ่านฝึกงานโดยที่ทำงานได้ไม่ถึง 80% ของความคาดหวัง แต่ได้รับค่าจ้างที่สูงกว่าความสามารถไป นานไปก็ลำบากใจทั้งสองฝ่าย
ว่าแต่วันนี้ คุณเป็นมืออาชีพแล้วรึยัง?