ใครๆ ก็อยากเจองาน หรืออาชีพที่ใช่ งานที่เป็น life’s calling ของตัวเอง แต่จะเริ่มจากตรงไหน ต้องทำอย่างไรบ้างล่ะ
ผมอ่านเจอเทคนิค 5 E จากหนังสือ The Lemonade Life: How to Fuel Success, Create Happiness, and Conquer Anything ของ Zack Friedman ซึ่งเห็นว่าน่าสนใจ เลยเก็บมาเล่าและขยายความต่อ
Explore
ขั้นแรกของการหางานที่ใช่ คือ การเปิดโลกของตัวเองเรื่องงาน ว่าปัจจุบัน หรืออนาคตอันใกล้นี้ มีงานอะไรในโลกบ้าง อย่ามองแต่งานที่เรารู้จัก หรืองานที่ตรงกับที่เรียนมาเท่านั้น
ถ้าคุณอยู่ในองค์กรแล้วก็อาจจะทำความรู้จัก และเข้าใจว่าตำแหน่งงานต่างๆ เขาทำอะไรกันบ้าง ถ้าเราสนใจ เราสนใจตรงส่วนไหนของงานนั้น ถ้าไม่สนใจ ทำไมถึงไม่สนใจ
การ Explore เป็นการเปิดโอกาสให้เห็นความเป็นได้ ทำความเข้าใจกับทั้งงานตรงสาย งานไม่ตรงสาย งานในอุตสาหกรรมที่เราอยู่ และต่างอุตสาหกรรม งานประจำ งาน freelance งานproject งานNGO เหมือนที่การ collect the dots ยิ่งคุณมี dots มาก คุณก็จะได้เปรียบเวลา connect the dots
Endeavour
ในการตามหางานที่ใช่ของแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ไม่มีผิด ไม่มีถูก แต่ละคนมีจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญคือ คุณมีความพยายาม และมุมานะในการทำงานปัจจุบัน และหมั่นถามตัวเองว่างานที่ทำอยู่ใช่สำหรับเราหรือไม่ ถ้าไม่ ส่วนไหนของงานที่เราไม่ชอบ หรือยังขาด
อย่าลืมที่จะสะท้อนหาบทเรียนที่เราได้เรียนรู้อะไรจากงานปัจจุบันด้วย โฟกัสที่ career journey ของตัวเองซึ่งไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร
Experiment
เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น การทดลอง หรือพูดคุยกับคนที่อยู่ในตำแหน่งที่เราสนใจ เพื่อเข้าใจภาพที่ครบขึ้นจากประสบการณ์ที่ทำงานนั้นอยู่ หลายอาชีพที่ภาพภายนอก กับความจริงของงานแตกต่างกันมาก คุณคงไม่อยากทุ่มสุดตัวเพื่อไปยังตำแหน่งงานนั้น ก่อนที่ค้นพบว่า ตัวเองเข้าใจผิด และไม่ได้เป็นงานที่ตัวเองอยากทำจริงๆ
ในยุคนี้มีหลายวิธีที่สามารถทดลองงานที่เราอยากลองโดยไม่ต้องลาออก คุณอาจจะหาข้อมูลเบื้องต้นทางอินเตอร์เน็ต หรือติดต่อผ่าน social network ต่างๆ หรือขอไปฝึกงาน ลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ และทดลองงานต่างๆ ที่คิดว่าน่าสนใจโดยไม่ต้องลาออก หรือทุ่มสุดตัวจนกว่าจะแน่ใจระดับหนึ่ง
Embrace
ระหว่างที่คุณลองผิด ลองถูกในการหางานที่ใช่ ให้อ้าแขนรับโอกาส อุปสรรค และทำความรู้จักคนให้มาก ใช้ประโยชน์จากทุกปัญหา และอุปสรรค เพื่อเปลี่ยนเป็นการเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง และหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองมากขึ้น
การเปิดรับ และกล้าเผชิญอุปสรรค จะช่วยร่นเวลา ให้เราตกผลึกเห็นสิ่งที่เราชอบ หรือไม่ชอบ และช่วยในการมองหาลักษณะงานในฝันของเราได้เร็วขึ้น
Engage
ทำทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายด้วยความตั้งใจ การทำงานเพียงแค่พอผ่านไปที ไม่เป็นผลดีต่อทั้งองค์กร และตัวเราในระยะยาว มีหัวหน้าท่านหนึ่งเคยสอนผมตอนทำงานใหม่ๆ ว่าถ้าคุณอยากไปทำงานอื่น ก็ต้องทำให้ผมเห็นว่างานปัจจุบันคุณรับผิดชอบ และผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดแล้ว
คุณอาจเสนอตัวงาน หรือกิจกรรมของบริษัท cross functional project ที่นอกเหนือจากงาน เพื่อทำความรู้จักคนหลากหลายแผนก และเข้าใจงานในภาพรวมขององค์กรมากขึ้น
เพราะการทำงานเป็นเหมือนการวิ่งระยะมาราธอน การที่เรารู้และเข้าใจวิธีหางานในฝัน ที่ใช่ ที่เราต้องการก็เหมือนการที่เรารู้ว่าในแต่ละวันเราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นอีกนิด และมีความสุข ได้เรียนรู้ตลอดเส้นทางการทำงาน โดยไม่ฝากความหวังไว้ที่ปลายทางที่ไม่รู้ว่าจะไปถึงอย่างไร