ประเมินผลงานตัวเองในปี 2019

Reflection / 28 December 2019 / 286

ก่อนที่ผมจะประเมินตัวเองในด้านต่างๆ เหมือนทุกสิ้นปี ถ้ามองกลับว่าปีนี้อะไรเป็น theme ที่ผมเห็นว่าโดดเด่นออกมามากที่สุด คงเป็นเรื่องการ connecting people สร้างความรู้จักกับคนใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลากหลายวงการ และเพิ่มความสัมพันธ์กับคนที่เรารู้จักอยู่แล้วผ่านทักษะการฟัง และการถามที่ได้จากการเรียนการเป็นโค้ช

รูปที่ผมเลือกมาเป็นตัวแทนของปีนี้ใน theme connecting people เป็นรูปที่ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์อ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในงานของบริษัท ซึ่งอ.ชัชชาติเป็นหนึ่งใน role model ที่ผมอยากมีโอกาสได้รู้จัก และสัมภาษณ์ และก็ได้เกิดขึ้นจริงในปีนี้ ถือเป็นการสัมภาษณ์แบบชัช(ชาติ)ชัช(พล) ที่ได้ซึมซับพลังงานด้านบวกจากบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

สำหรับการประเมินชีวิตตัวเองในด้านต่างๆ เทียบกับปีที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้

สุขภาพร่างกาย (B+) 1 pt down vs Year Ago (YA)

ปีนี้แม้จะได้ไม่ได้ป่วยถึงขั้นนอนโรงพยาบาล แต่ความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายลดลงเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้รู้สึกไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร highlight ของสุขภาพปีนี้คือการลดน้ำหนักลงมามากที่สุด 4 กิโลกรัมเทียบกับตอนต้นปี แม้ตอนเดือนสุดท้ายจะขยับขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าปีที่แล้วมาก

การงาน (A) flat vs YA

ปีนี้เป็นปีที่บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ แม้ไม่ได้เกินที่ผมคาด แต่ก็กระตุ้นให้ทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับทิศทางใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่าดีขึ้น ผมมีโอกาสได้ใช้จุดแข็งในการเชื่อม และสร้าง value ให้กับบริษัทและ partners ใหม่ๆ ซึ่งเป็นผลดี win-win กับทุกฝ่าย

การเงิน (A) flat vs YA

การเงินปีนี้ฝั่งรายรับต่อยอดจากปีที่แล้ว โดยใช้หลักทำน้อย ได้มาก ด้วยการสร้าง value ที่ไม่ยึดติดกับเวลา (ซึ่งมีจำกัด) ส่วนฝั่งรายจ่ายเป็นปีที่เห็นความสำคัญของประกันประเภทต่างๆ โดยเฉพาะประกันสุขภาพมาก แน่นอนกว่าการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเป็นสิ่งที่ ‘ต้อง’ ทำ แต่ประกันก็จะช่วยรับความเสี่ยงที่ไม่ได้คาดคิดไว้ได้

สภาพจิตใจ (A) flat vs YA

ปีนี้มีเรื่องให้เห็นความไม่เที่ยงของชีวิตมากขึ้น ทั้งเกิด – มีตั้งแต่ลูกของญาติ ลูกของเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แก่ – จากตัวเอง และคนรอบตัว โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองจะเห็นความต่างได้ชัด เจ็บ – ลูกเข้าโรงพยาบาลต้องไปนอนเฝ้าอยู่หลายคืน ตาย – ทั้งญาติสนิท พ่อ/แม่ของเพื่อน จนมาถึงเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ผมมองในแง่ดีว่าเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยฝึก และเตือนใจ นอกจากนั้นยังช่วยลดความเครียด และความกังวลกับเรื่องต่างๆ ที่ไม่สำคัญในชีวิต

ความรัก (A) 1 pt down vs YA

เพราะครอบครัวเป็น priority อันดับแรก การเลือกใช้เวลาเลยไม่ยาก ได้มีโอกาสไปส่งลูกตอนเช้าก่อนไปทำงาน ไปงานโรงเรียนดูการแสดง เห็นพัฒนาการต่างๆ ปีนี้พอลูกเริ่มทานอาหารปกติข้างนอกบ้านได้ เลยมีโอกาสพาไปทานข้าวกับคุณปู่ คุณย่า และคุณย่าทวดได้บ่อยขึ้น

การพัฒนาตัวเอง (A) flat vs YA

การพัฒนาตัวเองปีนี้ตั้งใจปรับลดเวลาในการอ่านหนังสือลง (อ่านจบ 28 เล่มจากที่ตั้งใจไว้ 40 เล่ม) เพื่อเพิ่มการเรียนรู้ทางช่องทางอื่นมาขึ้นทั้งการฟัง podcast, ฟังสรุปหนังสือ, เรียน online class, และไป forum ต่างๆ เพื่อ connect กับทั้ง speaker และคนมาร่วมงานซึ่งมักจะเป็นคนที่สนใจเรื่องการพัฒนาตัวเองเหมือนกัน highlight ของปีคือการที่ได้ ACC จาก ICF ที่ต้องทำให้ได้ตามเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งไม่ง่ายถ้าไม่มี commitment พอ

People Capital (A) flat vs YA

ปีนี้นอกจากได้นัดทานข้าวกับคนที่น่าสนใจเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นตัวช่วย และโชคดีที่ผมเริ่มในเรื่องของการสร้าง people capital คือการทำ podcast 5 Questions with Chutchapol เพราะทำให้ผมมีโอกาสคุย ถาม และแบ่งปันมุมมอง ประสบการณ์ของแขกรับเชิญ ซึ่งมีทั้งคนไทย และต่างประเทศ เป็นการเปิดโลกตัวเองได้ดีมากๆ

ผมให้ ้highlight ของการสัมภาษณ์ปีนี้คือการได้สัมภาษณ์คุณ David Allen ผู้แต่ง Getting Things Done ซึ่งเป็น idol ที่ผมอ่านหนังสือเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วและนำระบบ GTD มาใช้ในการจัดการชีวิตตัวเอง ต้องขอขอบคุณพี่หนู แห่ง GTD Thailand ที่ช่วยประสานให้มีโอกาสสัมภาษณ์ผ่าน VDO conference ด้วย

ทำประโยชน์ให้คนอื่น (B+) 1pt down vs YA

ปีนี้ยังได้มีโอกาสแบ่งปันกับน้องๆ นิสิต นักศึกษาเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือการได้รับเชิญไปพูดในงานต่างๆ มากขึ้น และงานที่ภูมิใจคือได้รับเกียรติเป็นหนึ่งใน trainer ของโครงการ Be the Change ที่คัดเลือกตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม เพิ่งมาทราบทีหลังว่า profile ของ trainer ของโครงการนี้ต้องถูกนำเสนอและเลือกจาก board เลยทีเดียว

ที่ให้คะแนนน้อยลง เพราะคิดว่าน่าจะมีวิธีทำประโยชน์ให้คนอื่นจำนวนมาก และสร้าง impact ได้มากกว่านี้


สรุปภาพรวมตลอดปี (B+) 1pt down vs YA

ภาพรวมปีนี้ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจที่ยังรักษาสมดุลได้ในทุกด้าน แต่ให้คะแนนตัวเองน้อยกว่าปีที่แล้วนิดนึง เพราะเชื่อว่าสามารถ stretch ให้ออกจาก comfort zone และสร้าง impact ได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ของปีหน้าครับ

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอขอบคุณที่ติดตามผมทางช่องทางต่างๆ ทั้งที่เพิ่งรู้จัก และหลายคนที่ตามมานานเป็นหลักปี หรือสิบปี

สุดท้ายนี้ก็ขอ…

สวัสดีปีใหม่ 2020 ครับ!