[youtube id=”mAGlSQnBHVU”]
เปิด Facebook วันนี้เห็นคลิปที่มูฮัมหมัด ยูนุส ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสำเร็จการศึกษาประจำปี 2016 ของ Babson College ที่น้อง ศานนท์ หวังสร้างบุญ แชร์
เนื้อหาน่าสนใจมากอยากให้น้อง ๆ ที่ภาษาอังกฤษอาจไม่แข็งแรงได้เข้าใจ ผมจึงสรุปสิ่งที่ยูนุสพูดเป็นข้อ ๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
- เด็กรุ่นนี้น่าอิจฉา เพราะโชคดีที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนามาไกลเทียบกับคนรุ่นก่อน ๆ ทำให้เป็นยุคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ (The most powerful generation in the human history)
- คำถามคือ คุณรู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองมีพลังยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนโลกอยู่ในมือ?
- ถ้าคุณไม่รู้ตัว ก็ไม่แปลกใจที่คุณจะไม่ได้ใช้พลังนั้น เปรียบเหมือนคุณมีตะเกียงอะลาดินวิเศษ แต่คุณไม่ถูเรียกยักษ์จินนี่ เวอร์ชั่นดิจิตอล ออกมาใช้เพื่อใช้ประโยชน์
- คำถามที่อยากให้คิดตอนนี้ก่อนต่างคนจะยุ่งกับเรื่องการงาน และอนาคตของตัวเอง คือ คุณจะแบ่งใช้พลังที่คุณมีเพื่อตัวเอง และคนอื่น ๆ ในโลก เป็นสัดส่วนอย่างไร? ถ้าไม่คิดและตัดสินใจตอนนี้ คุณอาจโดนงานดึงความสนใจไปจนลืมไปว่าเรามีพลัง สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
- เราทุกคนมีความสามารถที่จะเปลี่ยนโลกได้ เพราะการเปลี่ยนโลกไม่ใช่เรื่องใหญ่ คำถามคือ คุณสนใจพอหรือเปล่า?
- ขั้นแรก คุณลองจินตการถึงโลกในอุดมคติของคุณ อย่าจำกัดความคิดตัวเอง คิดใหญ่โดยไม่ต้องลังเล เหมือนเราเป็นนักเขียนนิยายสังคม (social fiction)
- ขั้นต่อ นึกถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้ในวันพรุ่งนี้เพื่อให้เราเข้าใกล้เป้าหมายขึ้นอีกนิด ผมแนะนำให้เริ่มลงมือจากเรื่องเล็กที่สุดที่เป็นไปได้ แล้วถ้าแรกเล็ก ๆ ของเราจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงได้ (Your first tiny step will make all this happen.)
- ธุรกิจส่วนใหญ่จะติดอยู่ที่ความต้องการส่วนตัว (personal interest) จนมองไม่เป็นภาพใหญ่ของสังคม วิธีที่ผมทำคือ มองหาปัญหาเล็ก ๆ ในสังคมรอบตัว และสร้างธุรกิจจากปัญหานั้น ซึ่งคือ ธุรกิจเพื่อสังคม (social business) ซึ่งต่างจากองค์กรการกุศล (charity) ซึ่งมีข้อจำกัด เพราะเมื่อนำเงินออกไปใช้แก้ปัญหา เงินนั้นก็หมดไปไม่กลับมาให้ใช้อีก
- ธุรกิจเพื่อสังคมจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้วัตถุประสงค์แบบองค์กรการกุศล ประกอบกับโมเดลทางธุรกิจเพื่อให้เงินที่ใช้แก้ปัญหากลับมาให้ใช้อีกได้
- คุณก็สามารถทำธุรกิจเพื่อสังคมได้ เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวเล็ก ๆ เช่น สร้างงานให้กับคนที่ว่างงาน 5 คน เป็นต้น
- การหางานเป็นสิ่งที่ล้าสมัย ลองบอกตัวเองว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อหางาน (job seeker) แต่เพื่อสร้างงาน (job creator) ลองคิดอย่างผู้ประกอบการ ที่เป็นคนสร้างงาน ข้อจำกัดต่าง ๆ อยู่ในหัวเราทั้งนั้น
- เรามีความเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่สมัยมนุษย์ยุคหิน ไม่มีใครไปหางานกับถ้ำข้าง ๆ เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ (go-getter) และแก้ปัญหา (problem solver) ได้
- มนุษย์เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานให้กับคนอื่น เมื่อเราทำงานให้คนอื่น เราจำกัดความสามารถของตัวเอง
- ประเด็นสุดท้ายที่อยากฝากไว้ คือ ภาพของจุดหมายปลายทางที่เราจะไป ตอบคำถามให้ได้ว่า คุณคือใคร? วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไร? ก่อนจะสายเกินไป
- ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ เพื่อที่จะให้ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถของคุณได้เต็มที่
- เป้าหมายของผม คือ 3 zero;
- 0 – ไม่มีคนจนในโลก
- 0 – ไม่มีคนว่างงาน
- 0 – การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
________________________________________________________________________________ ถ้าชอบบทความนี้ คุณอาจจะสนใจ Monday’s Spark with Chutchapol.com ซึ่งผมคัดไอเดียเจ๋งๆ คำถามสั้นๆ ที่จะช่วยกระตุ้นพลังในการทำงานทุกเช้าวันจันทร์