เวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง มักจะเป็นช่วงที่หลายองค์กร “ล้อฟรี”
ล้อฟรี เพราะรู้ว่าผู้บริหารคนเก่าจะไม่มีอำนาจให้คุณ ให้โทษอีกแล้ว
ล้อฟรี เพราะทุ่มทำอะไรไป แล้วเกิดไม่ใช่สิ่งที่นายคนใหม่สนใจ ก็อาจเหนื่อยฟรี
ล้อฟรี เพราะดูท่าทีของนายคนใหม่ก่อนว่าจะมาแบบไหน จะได้รับมือ หรือสนองนโยบายถูก
หรือ ล้อฟรี เพราะปกติก็ล้อฟรีอยู่แล้ว #ห๊ะ
แน่นอนว่าผลของการล้อฟรี จะให้คนในทีมอาจรู้สึกขาดทิศทาง และชิวขึ้น เพราะไม่กล้าเริ่มอะไรใหม่ จนกว่าผู้บริหารคนใหม่จะเริ่มเข้าที่เข้าทาง และกำหนดนโยบาย
ซึ่งถ้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ อาจล้อฟรีกันได้นานเกือบปีเลย
และอย่าคาดหวัง อะไรใหม่ๆระหว่างช่วง แม้อาจหมายถึงการปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้าไป ระหว่างที่เรามัวแต่ชิวๆกันอยู่
ผมมีโอกาสได้เห็นการเตรียมการระหว่างช่วงเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่ และคิดว่าช่วงเปลี่ยนแปลง ไม่ควรปล่อยให้สูญญากาศอยู่เฉยๆ เลยสรุปสิ่งที่สังเกตมา 3 ข้อ ว่ามืออาชีพเขาล้อฟรีกันยังไง
1. เตรียมแผนงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ในกรอบใหญ่
แน่นอนว่า ผู้บริหารคนใหม่อาจมีแนวนโยบายที่ต่างไปจากเดิม แต่ถ้าดูกรอบกลยุทธ์ใหญ่ขององค์กร แน่นอนว่ามันมีขอบเขต และทิศทางของมันอยู่ ถ้าสิ่งที่เรากำลังทำไม่หลุดไปจากกรอบใหญ่ ยังไงก็มั่นใจได้ว่าถึงลุยไปก็ไม่เสียแรงปล่าว เพราะใครจะมาก็ต้องทำเรื่องนี้
2. รู้ว่าควรให้ความสำคัญกับงานไหน
ระหว่างที่รอนโยบายใหม่ พนักงานในทีมอาจจะไม่แน่ใจว่าควรจะเน้นงานไหน หัวหน้าควรจัดความสำคัญงานจากที่วิเคราะห์ในข้อแรก ที่จะให้ทีมลุยในช่วงเปลี่ยนผู้บริหาร เพื่อไม่ให้ทีมรู้สึกเคว้งและเสียโมเมนตัมในการทำงาน
3. เตรียมความพร้อมของงานที่เป็นพื้นฐานให้แน่น
เหมือนที่เค้าว่า “ยามศึกเรารบ ยามสงบเราพัฒนา” ช่วงที่รอทิศทาง และนโยบายจากนายใหม่ เราสามารถให้เวลาที่มีเพิ่มขึ้นจากงานใหม่ๆ ด้วยการพัฒนาระบบงานพื้นฐานของแผนกที่ปกติไม่มีเวลา เพราะลุยงานอย่างเดียว งานพื้นฐานที่เป็นระบบต่างๆ ถ้าได้ปัดฝุ่น ยกเครื่องบ้าง จะช่วยให้เมื่อต้องลุยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลองดูนะครับว่าจะปรับใช้กับองค์กรของคุณได้รึปล่าว? หรือถ้ามีมุมมองเพิ่มเติมก็มาแบ่งปันกันได้
คำถาม: คุณใช้ประโยชน์จากช่วง ล้อฟรี เพื่อองค์กรอย่างไร?