คนเบื้องหลัง

Reflection / 2 October 2010 / 1660

ช่วงเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการจัดงานใหญ่ของบริษัท2งานติดกัน

ทำให้เห็นมุมมองของงานในอีกแบบนึง

จากที่ปกติเป็นคนเข้าร่วมงาน ถึงเวลาก็มา ทำกิจกรรมเฉยๆ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก

ได้รู้สิ่งที่คนมาร่วมงานไม่มีทางรู้เลยว่าที่มา หรือ รายละเอียดแต่ละเรื่องต้องผ่านการคุย การแก้ มาไม่รู้กี่รอบ แม้สุดท้ายจะไม่ได้ใช้เลยก็ตาม…

ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองเข้าใจคนที่เตรียมงาน อยู่เบื้องหลังพอสมควรเพราะก็เคยทำกิจกรรม เป็นคนเตรียมงานแบบนี้มาบ้างตอนเรียน

แต่พอได้ทำงานที่มีความคาดหวัง และแรงกดดันที่พลาดไม่ได้

ความเครียดและความกังวลก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ผมเชื่อว่าสุดท้ายคนที่เตรียมงานทุกคน หวังว่าเตรียมงานเหนื่อยแค่ไหนไม่เป็นไร ขอให้งานออกมาราบรื่น และดีทึ่สุด

ก็พอใจแล้ว

.

ดังนั้นถ้าคุณได้มีโอกาสไปร่วมงานไหนแล้ว เกิดข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ไม่ราบรื่นบ้าง

ก็ช่วยใจเย็นๆนิดนึง

เพราะไม่ว่าจะเตรียมงานมาดีแค่ไหน วันจริงมักจะมีตัวแปรที่คาดไม่ถึงเข้ามาให้ตกใจเล่นอยู่เสมอ

ไม่มีใครอยากให้งานสะดุดหรอก

.

จากเรื่องนี้ทำให้รู้ว่า การพยายามเข้าใจคนอื่นโดยการเอาใจมาใส่ใจเรา (put yourself in other’s shoes)

ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจเค้าได้ทั้งหมด

จนกว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์นั้นเอง

.

คงเหมือนที่หลายๆคนที่พูดเหมือนกันหลังจากมีลูกใหม่ๆสินะ

ว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเป็นพ่อ/แม่คนมีความลำบากแค่ไหน

และรักท่านเพิ่มจากเดิมไม่รู้เท่าไหร่… :)

(โยงไปได้นะเรา :P)