เมื่อวานมีโอกาสได้ออกไปสัมนาข้างนอก เรื่อง Productivityวิถีพุทธ โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ จัดโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
นานๆได้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน ได้ฟังวิธีคิดของคนที่ต่างจากที่เจอทุกวัน
(ระหว่างเขียนอยู่ก็ดูรายการเจาะใจกำลังสัมภาษณ์ อ.วรภัทร์ อยู่เป็นตอนที่ 2 ไปด้วย)
กลับมาอ่านโน้ตที่จดไว้แล้วพยายามจะเรียบเรียงสิ่งที่น่าสนใจที่ได้จากการฟังครั้งนี้
แม้ว่าเนื้อหาจะโยงไปเรื่องโน้นเรื่องนั้นบ้าง
แต่ก็หวังว่าจะได้แง่คิดอะไรใหม่ๆไปคิดต่อ หรือไปใช้บ้างนะครับ…
- พุทธะ คืออะไร
- ผู้รู้=สติ
- ผู้ตื่น=sensing ซึ่งจะต่อยอดเป็น Knowledge Management แล้วต่อไปเป็น Learning Organization
- ผู้เบิกบาน=Happy Workplace
ทั้งสามข้อนี้จะทำให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร แล้วจะเพิ่ม 3 P (Profit/People/Planet)
- ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด? นอกจากทางโลกแล้ว ควรมีอาจารย์ทางธรรมด้วย
- โลกเรากำลังจะเปลี่ยนจากยุคอุตสาหกรรม เป็นยุคปัญญา (Cognitive) ซึ่งคือทฤษฏีพอเพียงของในหลวง
- Avatar เป็นหนังเชิงเปรียบเทียบที่ลึกซึ้งและสอนอะไรมากในแง่ของศาสนา ปรัชญา นับจาก the Matrix (สงสัยต้องไปดูอีกรอบแล้ว)
- การเดินตามฝรั่งมากๆ (ทำ KPI, TQM, TPM) สารพัดตัววัดโดยไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไป เอาแต่เครื่องมือมาใช้ แต่ไม่มีวัฒนธรรมที่เหมาะสมมารองรับก็จะมีแต่เจ๊ง
- การสัมภาษณ์งานสมัยใหม่ไม่ดูเรื่องเกรด เรื่องสถาบัน แต่ดูเรื่องจิตอาสา
- การเรียนเป็นคณะเป็นการเรียนแยกส่วน ทำให้เราแยกจากธรรมชาติซึ่งต้องเรียนแบบองค์รวม
- กฏเกณฑ์ยิ่งเพิ่ม ความไว้ใจ (Trust) จะยิ่งลดลง
- การบริหารแบบพุทธ คือให้เข้าใจผู้อื่น เมตตา บริหารด้วยความรัก
- ตัวทำลายองค์กร คือ Ble/Bai/Boa/Bee/Blame/Block (เบิ้ลลูกน้อง/ใบ้ไม่เสนอความเห็น/โบ้ยงานให้คนอื่น/บี้งานอย่างเอาเป็นอันตาย/โทษคนอื่น/ปิดกั้นความเห็นคนอื่น)